Image IRON MAN / ไอรอนแมน มหาประลัยคนเกราะเหล็ก “จุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบของ MARVEL STUDIOS, IRON MAN มันช่างเท่เหลือเกืน” หลังจาก MARVEL COMICS ปล่อยลิขสิทธิ์การ์ตูนฮีโร่ในมือให้สตูดิโอต่างๆเอาไปเปลี่ยนเนื่อเรื่องและทำลายซะแทบไม่เหลือซากทั้ง DAREDEVIL, GHOST RIDER, X-MEN จน MARVEL ทนไม่ใหวอีกต่อไปจึงต้องสร้าง สตูดิโอ ของตัวเองขึ้นมาในชื่อ MARVEL STUDIOS ซึ่ง MARVEL STUDIOS มีหน้าที่อะไร หน้าที่หลักๆ ก็คือการสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ของตนเองให้ไปโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ และ คงความเป็นต้นฉบับไว้ไม่ให้ถูกทำลาย และมีหน้าที่คือการไปควบคุมเนื้อเรื่องในหนังในมือของตัวเอง ไม่ให้ถูกเอาไปเปลี่ยนแปลง และ MARVEL ก็ตั้งใจเลือก IRON MAN ฮีโร่เกราะเหล็กมาทำหน้าที่เปิดตัวให้กับสตูดิโอมาร์เวลและเริ่มต้นจักรวาล MARVEL CINEMATIC UNIVERSE (MCU) โดย IRON MAN เป็นผลงานจากความคิดของ สแตน ลี บุคคลที่ให้กำเนิดฮีโร่ดังๆ มากมายทั้ง SPIDER-MAN, THOR, THE INCREDIBLE HULK, X-MEN เป็นต้น IRON MAN คือเรื่องของ เศรษฐีเพลย์บอยหนุ่มผู้เป็นอัจฉริยะแต่มีความยิ่งผยองที่ชื่อ แอนโธนี่ เอ็ดเวิร์ด สตาร์ค “โทนี่ สตาร์ค” เขาเป็นผู้บริหารของบริษัท STARK INDUSTRIESโทนี่ได้ไปทำหน้าที่เปิดตัวโครงการและสาธิตยอดอาวุธให้กับกองทัพสหรัฐที่อัฟกานิสถาน (ตามต้นฉบับต้องเป็น เวียตนาม) แต่โทนี่ถูกลอบโจมตีโดยกลุ่ม “เท็นริง” และถูกจับตัวไปเพื่อไปสร้างอาวุธให้กับกลุ่มร่วมกับ ดร. ยินเซ็น แต่การถูกลอบโจมตีทำให้เกิดบาดแผลที่น่าอกกับ โทนี่ สตาร์ค ทำให้ ดร. ยินเซ็น ต้องสร้างเครื่องช่วยชีวิตให้เขาสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้

แต่โทนี่รับรู้ว่าพวกเท็นริงได้นำอาวุธของบริษัทตนนั้นมากะว่าจะให้ โทนี่ สร้างอาวุธให้ แต่เหมือนเป็นความผิดผลาดทำโทนี่ได้เอาอาวุธพวกนั้นมาสร้างเครื่องช่วยชีวิตของตนให้ดียิ่งขึ้น เรียกว่า “เตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดย่อส่วน” และได้ร่วมมือกับ ดร. ยินเซ็น แอบสร้างอาวุธที่จะช่วยให้ตนเองแอบหนีออกไปได้ ซึ่งโทนี่ก็สร้างสำเร็จและแอบหลบหนีไปได้ แต่ต้องแลกไปกับการเสียชีวิตของ ดร. ยินเซ็น ซึ่งการหลบหนีของ โทนี่ ก็สร้างความโกรธแค้นให้กับหัวหน้าของกลุ่ม เท็นริง เป็นอย่างมาก และเมื่อเขาหลบหนีออกมาได้ และกลับมาที่อเมริกา โทนี่ ได้ประกาศการยกเลิดสายการผลิตของบริษัทตนเองในทันที ทำให้สร้างความมึนงงให้กับบรรดานักข่าวเป็นอย่างมาก และผลที่ตามมาก็คือ หุ้นของบริษัท ร่วงกราว และทำให้โทนี่ถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทที่พ่อของเขา โฮเวิร์ด สตาร์ค สร้างขึ้นมากับมือ แต่เหมือนเป็นผลดีกับตัวโทนี่เอง เขาได้เอาเวลาว่างทั้งหมดนั้น มาสร้าง ชุดเกราะที่จะปกป้องโลกของเขาไว้ โดยได้ร่วมสร้างกับ “จาร์วิส” สมองกลที่โทนี่สร้างเอง และได้ผ่านการทดลองต่างๆ มาแล้ว ประจวบเหมาะกับการที่ลุงของเขา “โอบาไดอาห์ สเตน” ได้มาขอดู เตาปฏิกรณ์ตรงหน้าอกของเขาเพื่อหวังจะเอาไปต่อยอดธุรกิจลับของเขาเอง ซึ่งก็คือการค้าอาวุธให้กับกลุ่ม เท็นริง นั้นเอง และ ณ ปัจจุบันกับการที่โทนี่ได้เห็นข่าวความรุนแรงในตะวันออกกลางและเกี่ยวข้องกับอาวุธของบริษัทของเขา ทำให้เขาต้องสวมชุดเกราะชุดที่ 3 ออกไปจัดการกับกลุ่มให้ซิ้นซากและเขาก็จัดการได้สำเร็จ แต่ก็ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่ม เท็นริง เลยทำให้ โอบาห์ไดอาห์ ทนไม่ใหวต้องออกโรงมาจัดการกับหลานของตน โดยไปเอาเตาปฏิกรณ์ตรงหน้าอกของโทนี่ ทำให้โทนี่หมดแรง และมาใส่ให้กับหุ่นยนต์ของตน “ไออ้อนมองเกอร์” ซึ่ง เป๊ปเปอร์ พ๊อตต์ ผู้ช่วยของ โทนี่ ได้ร่วมมือกับหน่วยความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เพื่อไปสืบควาลับของ โอบาไดอ่าห์ แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งพอกับที่โทนี่ได้เอาเตาปฏิกรณ์อันเก่าของตนมาใช้และได้สวมชุดเกราะและออกไปต่อสู้กับ ไออ้อนมองเกอร์ และทำให้เกิดสงครามระหว่างหุ่นทั้งสองตัวกันใจกลาง มหานครนิวยอร์ค!!

สนุกครับมากครับคือสิ่งที่ต้องบอกเมื่อดูจบ สนุกกับการที่หนังยังคงเรื่องราวและอารมณ์ของหนังสือการ์ตูนไว้ แม้จะมีการปรัปเปลี่ยนนู่นนี้นิดหน่อย เช่น จาร์วิส ในต้นฉบับที่เป็นคน แต่หนังปรับมาให้เป็นสมองกล ซึ่งก็กลัวจะนำไปถูกเปรียบเทียบว่าก๊อบหรือไปซ้ำเนื้อเรื่องของแบทแมนหรือเปล่าในเรื่องพ่อบ้าน เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นสมองกลซึ่งก็เป็นจุดที่เปลี่ยนแล้วถูกจุดของหนัง การใส่มุกตลกเข้ามาทำให้เพิ่มความสนุกของหนังมากขึ้น และในส่วนแอ๊คชั้น ที่ยอมรับเลยว่า สุดจริงๆ อาจจะไม่สึดเหมือนกับ TRANSFORMERS แต่สุดในที่นี้หมายถึงสุดในการต่อสู้ระหว่างคนที่สวมชุดเกราะที่ดูสนุกและมันส์มาก และ ตรงส่วนเนื้อเรื่องแม้เนื้อเรื่องหรือเหตุของการกระทำในหนังอาจจะดูลอยๆ ไร้เหตุผลในการกระทำของตัวละครบางตัว (เช่น โอบาไดอาห์) แต่หนังยังหาจุดมาเสริมเพื่อกลบส่วนตรงนั้นได้อย่างลงตัว ซึ่งเนื้อหาของหนังจริงแล้วไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่กว่าหนังประเภทแอ๊คชั่นทั่วไป แต่ IRON MAN มีสิ่งที่เรียกว่า “ลงตัว” อยู่ในหนัง “ลงตัว” ในที่นี้ไม่ใช่อะไร แต่เป็นการที่หนังคงอารมณ์ของหนังซูเปอร์ฮีโร่ไว้อย่างครบ ไม่ต้องยุ่งยากแบบ X-MEN, SPIDER-MAN ในเวอร์ชั่นหนังที่พยายามดราม่ากันจนเกินไป หรือ GHOST RIDER, DAREDEVIL ที่พยายามนำตัวเองสู่หายนะลงไปเรื่อยๆ ซึ่ง IRON MAN นั้นสามารถหาจุดยืนของตัวเองเจอ ซึ่งคือการเน้นเรื่องราวความเป็นมนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงและสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ถ้ารู้จักและจะสร้าง และสอดแทรกมุกตลกที่แหมาะสมเข้ามาเป็นระยะๆ ซึ่งพอถึงเวลาต้องจริงจังหนังสามารถไปถึงจุดๆ นั้นได้ ซึ่งก็ต้องขอชมทีมงาน MARVEL STUDIOS ที่ทำหนังออกมาได้สนุกอย่างน่าเหลือเชื่อ

ต้องขอปรบมือให้จริงๆ ครับที่สามารถเก็บความเป็น Original ของตัวหนังสือ และถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมดุล, IRON MAN นั้นได้ Robert Dawney Jr. มาแสดงในช่วงที่พีกจริงๆ ครับ เพราะหลังจากที่เคยติดคุกไปแล้วกลับตัวหลับใจ และมาทุ่มกับการแสดงเต็มที่ Dawney Jr. เล่นเป็น Tony Stark ได้อย่างเท่มาก และยียวนกวนบาทาได้อย่างน่ารักมาก ซึ่งถ้าไม่ได้ Robert Dawney Jr. มาเล่นแล้ว คงนึกหน้าคนที่จะมารับบทๆ นี้ไม่ออกแล้วละครับและการที่ Dawney Jr. มีเคมีที่ลงตัวกับ Terrence Howard หรือกับ Gwyneth Patrols ในฉากที่ต้องเข้าคู่ด้วยกันทำให้หนังออกมาไหลลื่นเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มี Jon Favreau มากุมบังเหียนกำกับ IRON MAN ก็ไม่รู้นะครับว่า ตัวหนังจะไหลลื่นและสนุกอย่างนี้หรือเปล่า Favreau นั้นเล่นกำกับออกมาโดยใช้ความเข้าใจที่มีต่อตัวหนังสือ มากำกับ IRON MAN ทำให้ตัวหนังยังมีจิตวิญญาณของความเป็นหนังสืออยู่มาก ดูได้จากการพูด หรือ การต่อสู้ และ เอฟเฟกต์ของหนังก็ดูสมจริงๆ สมจังในแทบจะทุกๆ ฉาก สรุป IRON MAN เป็นหนังฮีโร่ที่ดูสนุกที่สุด และ เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งอารมณ์หรือความเป็นหนังสือการ์ตูนที่ไหลลื่น IRON MAN จะเป็นก้าวแรกและเป็นบรรทัดฐาณให้กับหนังสือการ์ตูนที่จะกลายเป็นหนังของฝั่งอเมริกาต่อๆ ไป

หนังยาวทั้งหมด 126 นาที

หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดขนาดนี้เอาไปเลย 9/10