posterb3

RUROUNI KENSHIN / เคนชิน ซามูไร X (ซามูไรพเนจร)

“ดัดแปลงยอดเยี่ยม, นักแสดงยอดเยี่ยม, ฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม, เพลงประกอบยอดเยี่ยม = จิตวิญญาณมังงะเต็มเปี่ยม”

     RUROUNI KENSHIN หรือในชื่อไทยที่คอมังงะญี่ปุ่นรู้จักกันดี “ซามูไรพเนจร” ผลงานของ อ. โนบูฮิโระ วัตสึกิ ที่เริ่มตีพิมพ์เมื่อปี 1994 ลงในนิตยสารโชเนนจัมป์ ของสำนักพิมพ์ ชูเอฉะ ซึ่งเมื่อได้ตีพิมพ์ก็ฮิตถล่มทลายจนต่อยอดไปทั้งอนิเมฉายทางทีวี ของเล่น ฯลฯ ซึ่งสิ่งเดียวที่ตัวซามูไรพเนจรยังไม่มีก็คือภาพยนตร์คนแสดงซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ยังไม่มี ซึ่งหลังจากการติพิมพ์จบไปในเดือนพฤศจิกายนปี 1999 หนังต้องใช้เวลาถึง 13 ปี!! กว่าจะมีหนังคนแสดงเกิดขึ่นในปี 2012 ในยุคสมัยที่มังงะคือสิ่งเชิดหน้าชูตาขายคนทั่วโลกได้ผ่านการกำกับของ เคชิ โอโตโมะ ซึ่งนักแสดงที่จะมารับบท ฮิมูระ เคนชิน คือนักแสดงหนุ่มมาแรงแห่งยุคนั่นก็คือ “ซาโต้ ทาเครุ” นักแสดงหนุ่มวัย 23 ที่แจ้งเกิดในปี 2007 กับ Kamen Rider Den-O (มาสค์ไรเดอร์ เดนโอ)…

     RUROUNI KENSHIN จะว่าด้วยเรื่องราวของ “คนพเนจรคนนึงที่มีชื่อเสียงเรียงนามว่า ‘ฮิมูระ เคนชิน’ ที่ออกเรร่อนเดินทางไปทั่วประเทศพร้อมกับดาบเล่มนึงที่เป็นดาบสลับคม ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเกิดในเมื่อ 140 ปีก่อนที่เมืองเกียวโต หลังจากการล่มสลายของรัฐบาลโตกุงาวะ อิเอยาสึ มีชายรักชาติฉายา ‘มือพิฆาตบัตโตไซ’ ที่ควงดาบเปื้อนเลือดเพื่อเปิดศักราชใหม่ของยุคเมจิและได้หายตัวไป เรื่องราวทั้งหมดจะเริ่มต้นที่ยุคเมจิที่ 11 (ราวปี 1878) ที่เมืองเกียวโต กับเรื่องราวของชายที่หันหลังให้แก่การฆ่าฟันชายคนนั้นคือ ฮิมูระ “บัตโตไซ” เคนชิน…”

rurouni

• ดัดแปลงดีมีชัยไปกว่าครึ่ง •
     หนังคนแสดงที่ดัดแปลงมาจากมังงะเข้าขั้นดีเลิศหากต้องยกตัวอย่างก็อย่าง Nana, Death Note, 20th Century Boys, Gegege no Kitaro ที่ดัดแปลงได้ค่อนข้างดีไปถึงดีมากเข้าขั้นเลิศไปจนถึงเพอร์เฟกต์ หรืออีกกลุ่มนึงหนังที่ดัดแปลงจากมังงะเข้าขึ้นดีแต่ไม่ได้ดีมากก็อย่าง Gantz ที่ดัดแปลงได้ดีในภาคแรกส่วนภาคสองเพราะตัวมังงะยังไม่จบแต่ต้องทำให้จบเลยกลายเป็นข้อเสียไปนิด และอีกจำพวกนึงมังงะดีแต่ดัดแปลงจนห่วยก็อย่าง Dragonball Evolution ที่ทำเอาแฟนๆ ประสาทเสีย แต่กับ Rurouni Kenshin ต้องจัดอยู่ในกลุ่มประเภทแรกนั่นก็คือดีเลิศ อาจจะไม่หลุดไปถึงขั้นเพอร์เฟกต์จนไร้ที่ติแต่ก็บอกได้ว่าเป็นการดัดแปลงที่ดีเลิศ

     กับการที่ตัวหนังจะดัดแปลงมาจากช่วงระหว่างช่วงต้นของเรื่องไล่ไปจนถึงการปะทะกับคังริวและก่อนเรื่องราวศึกเกียวโตกับชิชิโอนิดหน่อยที่แม้ตัวหนังฉบับคนแสดงจะไร้ตัวชิโนโมริ อาโอชิและสมาชิกกลุ่มโอนิวาบัง ตัวละครสำคัญจากตัวมังงะ แต่ระหว่างช่วงนั้นหนังก็ยังมีตัวละครสำคัญในช่วงหลักจากมังงะในช่วงอื่นๆ อย่าง อุโด้ จินเอ, ไซโต้ ฮาจิเมะ เข้ามามีบทบาท บวกกับการตัดเส้นเรื่องที่แบ่งเป็นช่วงๆ ในตัวมังงะออกไปแล้วจับเอาเรื่องราวช่วงต่างๆ มาจับรวมกันเป็นเส้นเรื่องๆ เดียวกัน และทีมของหนังก็ฉลาดกับการที่รู้ว่าส่วนตรงไหนไม่สำคัญและจะเป็นผลเสียต่อตัวเนื้อเรื่องก็ตัดออกไป อย่างในฉบับหนังหนังก็ไม่เล่าเรื่องอดีตของตัว ซางาระ ซาโนสุเกะ หรือแม้แต่ความเป็นมาของ เมียวจิน ยาฮิโกะ และใส่มาว่าเป็นเพียงเด็กที่มาขอฝึกดาบ

     และหนังฉลาดกับการรู้ว่าควรใส่อะไรมาเพิ่มเติมหนังก็ใส่เข้ามาทั้งตัวอดีตเรื่องราวความเป็นมาของแผลเป็นรูปกากบาทของตัวเคนชินยิ่งทำให้ตัวบทบาทการไม่อยากคร่าชีวิตของคนอื่นของตัวเคนชินมีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้นนี่ถือเป็นส่วนช่วยที่ทำให้ตัวหนังมีความสมดุลและลื่นไหลและไม่มีส่วนที่น่าเบื่อ…

rurouni06

• คัดเลือกหนังแสดงดีให้อารมณ์มังงะเต็มๆ •
     ซาโต้ ทาเครุ จากหนุ่มดวงซวยที่มีอิมาจินเข้าสิงและต้องปกป้องเส้นทางกาลเวลาใน คาเมนไรเดอร์ เดนโอ สู่อดีตมือพิฆาตของรัฐบาลฉายาบัตโตไซ ฮิมูระ เคนชิน ชายหนุ่มที่ตั้งปณิธานกับตนเองว่าจะไม่คร่าชีวิตผู้อื่นแต่จะปกป้อง กับการได้ ซาโต้ ทาเครุ มารับบท เคนชิน นี่คือการคัดเลือกนักแสดงที่เป็นดั่งภาพทับซ้อนของตัวละครจากมังงะและภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างแนบเนียน ทั้งการแสดงของตัวทาเครุเองที่ทำออกมาได้ยอดและถ่ายทอดตัวเคนชินที่เป็นมังงะออกมาสู่ความเป็นจริงได้ดี สีหน้า, ท่าทาง, ท่าทางการจับดาบ, น้ำเสียง นี่คือการถ่ายทอดการแสดงได้เนียนตากับตัวละครได้ดีอีกมากๆ อีกเรื่องไม่เพียงเท่านั้นแต่หน้าตาของทาเครุเองก็เหมาะสมเป็นเคนชินอยู่แล้วด้วยจึงเป็นเหตุผลที่ถูกต้องกับการเลือกทาเครุมาแสดง

     เหมือนครั้งนึงที่ทีมสร้าง Death Note เลือก มัตซึยามา เคนอิชิ มารับบท L, ไม่ได้เพียงแค่ ซาโต้ ทาเครุ เพียงเท่านั้นที่ทีมงานเลือกมารับบทตัวละครจากมังงะที่ทำออกมาได้สมจริงและเหมือนจริงทั้ง ทาเคอิ เอมิ กับบทบาทของ คามิยะ คาโอรุ, มุเนทากะ อาโอกิ กับบทบาท จอมวิวาทซันสะ ซางาระ ซาโนสุเกะ ที่ทำออกมาให้อารมณ์เหมือนฉบับตัวมังงะเป็นอย่างมาก, คิกคาวะ โคจิ ในบทบัตโตไซตัวปลอม อุโด้ จินเอ ที่ให้อารมณ์เหมือนตัวจินเอในฉบับมังงะทั้งรูปลักษณ์หรือแม้แต่ดวงตา, เจ้าหนู ทานากะ ทาเคโตะ ในบท เลือดซามูไร เมียวจิน ยาฮิโกะ ก็เลือกได้ดีและแสดงได้ดีจนอยากจะตบเกรียนแตก หรือแม้แต่ อาโออิ ยู ในบท ทาคานิ เมงุมิ ก็ให้อารมณ์ตามตัวมังงะได้หมด

     แต่สำหรับตัวผู้เขียนการหากไม่นับ ซาโต้ ทาเครุ ในบท เคนชิน แล้วตัวนักแสดงที่ทีมงานเลือกมาแสดงได้ขาดอีกคนคงเป็น เองุชิ โยสุเกะ ในบทอดีตหัวหน้ากองสามชินเซ็นงุมิ ไซโต้ ฮาจิเมะ ที่เลือกออกมาได้สมจริงกับตัวมังงะเป็นอย่างมาก ก็เหมือนกับตัว ทาเครุ ที่เหมาะสมเป็นเคนชิน ไม่ต่างอะไรกับ โยสุเกะ ที่ทั้งการแสดงหรือท่าทาง สีหน้า แววตา ที่โหดลึก ก็เหมาะสมเป็น ไซโต้ ฮาจิเมะ ดีเหลือเกินและไม่พลาดที่ต้องชื่นชม

xlarge

• ฉากต่อสู้ดีน่าชื่นชม •
     เนื่องด้วยตัวเรื่องราวเกิดขึ้นในยุคปีเมจิที่ทางการห้ามพกอาวุธดาบแต่แน่นอนว่าเลือดซามูไรที่ผ่านมายังคงอยู่ทำให้มันพกดาบกันทั้งเรื่อง และแน่นอนว่า Rurouni Kenshin เป็นมังงะแนวโชเนนที่เน้นการต่อสู้เพื่อวัยรุ่นผู้ชายเป็นหลักมันก็มีฉากต่อสู้ ที่ในตัวมังงะทำไว้อลังการงานสร้างมาก ทำให้เป็นปัญหาต่อตัวภาพยนตร์ที่จะทำอย่างไรกับฉากต่อสู้ที่มังงะทำไว้อลังการมาก แต่พอตัวอย่างแรกปล่อยทุกอย่างก็หายสงสัย

     กับการที่หนังไม่ต้องเน้นอะไรที่เอพิคมากและเล่นท่ายากเหมือนในมังงะหรือแม้แต่อนิเม แต่กับตัวภาพยนตร์คนแสดง หนังมุ่งเน้นไปที่ตัวกายภาพที่สามารถทำออกมาได้จริงๆ และสมจริงดังนั้นแฟนๆ ที่อยากเห็นอะไรเว่อร์ๆ แบบในมังงะก็คงผิดหวัง เพราะฉากต่อสู้แม้จะไม่เว่อร์ไม่เอพิคไม่อลังการ แต่ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ตัวมังงะได้ออกมาสมจริงจนน่าเหลือเชื่อ

     ความรวดเร็วของเคนชินกับเพลงดาบล่องนภาที่ไม่ต้องเน้นใช้บ่อยให้ดูเว่อร์แต่ทำออกมาไม่กี่ครั้งแต่ถึงขั้นขอคารวะกับการทำออกมาได้เหมือนจริงจนขนลุก

• เพลงประกอบดีสู่ทีมงานที่ดีและนำพาสู่ฉากจบที่ดี •
     ซาโต้ นาโอกิ ผู้ทำเพลงสกอร์ให้แก่ Space Battleship Yamato และ Always 3 ที่มาเป็นผู้ทำเพลงสกอร์ประกอบให้แก่ Rurouni Kenshin ที่ตัวหนังมีความยาวถึง 134 นาทีแต่กับเพลงประกอบที่มีความยาวไม่ถึง 60 นาที ตัวนาโอกิ ก็สร้างสรรค์สกอร์ให้ออกมาเข้ากับตัวหนังมากจากไม่มีอะไรโดดเด่นมากแต่เมื่อตัวหนังข้ามไปอีกฉากเพลงประกอบอีกชุดก็มาและทำสกอร์ดีขึ่นเรื่อยๆ และเรื่อยๆ พอหนังใกล้ถึงบทสรุปเท่าไร ก็ยิ่งโดดเด่นมากขึ้น โดยเฉพาะสกอร์ที่ใช้ในฉากบุกคฤหาสน์คังริวกับจังหวะสกอร์ที่ดูโหยหวนแต่ทรงพลังก็กลายมาเป็นดนตรีที่สุดยอดในทันที

     เมื่อเพลงประกอบดีแล้วทีมงานก็ดีไม่เพียงแค่ ซาโต้ นาโอกิ แต่กับผู้กำกับ เคชิ โอโตโมะ ที่เป็นคนเขียนบทร่วมกับ ฟูจิอิ คิโยมิ ที่ดัดแปลงมังงะให้ออกมาเป็นหนังที่ดูสนุกและดำเนินเรื่องออกมาลื่นไหล ไม่เพียงแต่บทที่ดีเท่านั้น กับการใช้ฉากประกอบต่างที่คงตัวต้นฉบับเอาไว้ก็เป็นอีกส่วนที่ดีเป็นอย่างมาก และ ตัวหนังยังเล่นกับแสงสีเงาได้อย่างสวยงาม

     เมื่อนับๆ รวมดูแล้วถือว่า Rurouni Kenshin ทำออกมาได้ดี แต่เมื่อทีมงานไม่ลืมคำว่าต้นฉบับออกไป และใส่อารมณ์ต่างๆ ไว้อย่างยอดเยี่ยมโดยไม่ตกหล่นแม้แต่คอสตูมของตัวละคร และเมื่อหนังดำเนินถึงจุดนึงที่พาหนังสู่ฉากจบก็สรุปง่ายๆ ว่านี่เป็นหนังที่ดัดแปลงจากมังงะที่ทำออกมาได้ดีอย่างดีติด 1 ใน 3 ได้ไม่อยากนัก (อีก 2 เรื่องแล้วแต่จะใส่) จนทำให้เป็นอุปสรรคกับหนังที่จะดัดแปลงจากตัวมังงะที่จะทำได้ดีอย่างนี้หรือไม่อย่าง Bleach เป็นต้น

“ซามูไรพเนจร เป็นภาพยนตร์คนแสดงที่ดัดแปลงจากมังงะที่ดีมากๆ อีกเรื่องนึง รู้ว่าตรงไหนจำเป็นก็เก็บไว้ ไม่จำเป็นก็ตัดทิ้ง ทำให้ผลที่ได้ก็คือหนังทำออกมาได้สนุกและลื่นไหลแต่ยังคงอารมณ์ตามตัวมังงะได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่เพียงเท่านั้นการหานักแสดงที่เหมาะสมกับตัวละครเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังออกมายิ่งใหญ่และคงความยอดเยี่ยมของตัวมังงะได้ไม่ตกหล่น”

GQ016

ความยาวทั้งหมด 134 นาที
จิตวิญญาณมังงะซามูไรเต็มเปี่ยมเอาไปเลย 9/10

กำกับ: เคชิ โอโตโมะ / เขียนบท: โนบูฮิโระ วัตสึกิ (มังงะ ซามูไรพเนจร) เคชิ โอโตโมะ, ฟูจิอิ คิโยมิ / นักแสดง: ซาโต้ ทาเครุ, ทาเคอิ เอมิ, มุเนทากะ อาโอกิ, คิกคาวะ โคจิ, ทานากะ ทาเคโตะ, อาโออิ ยู, คางาวะ เทรุยูกิ, เองุชิ โยสุเกะ / กำกับภาพ: อิชิซากะ ทาคุโร่ / ลำดับภาพ: อิมาอิ สึโยชิ / ดนตรีประกอบ: ซาโต้ นาโอกิ / 2012 / ญี่ปุ่น / 134 นาที / จัดจำหน่าย: วอร์เนอร์ บราเธอร์ พิคเจอร์ / สตูดิโอผู้สร้าง: ซี แอนด์ ไอ เอนเตอร์เทนเมนท์, ไอเอ็มเจ เอนเตอร์เทนเมนท์